ในยุคที่ทั่วโลก โดยเฉพาะภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ต่างให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ด้วยการปรับตัวสู่การพัฒนาและการใช้พลังงานสะอาด ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพไปพร้อม ๆ กัน บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ผู้ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เดินหน้าเอาจริงเอาจังกับการดูแลสิ่งแวดล้อมมาตลอดระยะเวลากว่า 32 ปี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยวิสัยทัศน์ “เป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามกรอบ ESG เรามาดูกันว่า EGCO..Group..มีวิธีการดำเนินธุรกิจไฟฟ้า ผ่านโรงไฟฟ้ากว่า 40 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศ รวม 8 ประเทศ ด้วยกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 7,019 เมกะวัตด์ และธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ได้อย่างไร

EGCO Group มีความเชื่อขององค์กรว่า “ต้นทางที่ดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี“ โดยให้ความสำคัญกับการร่วมแก่ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ผ่านการกำหนดเป้าหมายมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ 3 ระยะ ได้แก่ – เป้าหมายระยะสั้น ภายในปี 2030 (พ.ศ.2573) EGCO Group ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการผลิดไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% (จากปัจจุบัน 21%) และลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ลง 10% จากการปรับปรุงโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีการนำไฮโดรเจนหรือแอมโมเนีย มาเป็นเชื้อเพลิงผสมในโรงไฟฟ้า (Hydrogen or Ammonia co-fring) และเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนศึกษาการใช้เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture , Utilization and Storage – CCUS) ในโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่ พร้อมแสวงหาโอกาสลงทุนในเทคโนโลยีไฮโดรเจนตลอดห่วงโซ่อุปทาน – เป้าหมายระยะกลาง ภายในปี 2040 (พ.ศ.2583) บริษัทมีเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon..Neutral)..ทั้งจากการเพิ่มกำลังผลิดไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง และการเลือกใช้พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะไฮโดรเจน ที่มีแผนจะดำเนิน ธุรกิจไฮโดรเจนตลอดห่วงโซ่อุปทานในเชิงพาณิชย์ รวมถึงขยายการใช้เทคโนโลยี..CCUS..ในโรงไฟฟ้าต่าง ๆ และตรวจวัด ชดเชย และรายงานการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างใกล้ชิด – เป้าหมายระยะยาว ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593) การมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ คือการบรรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ผ่านการใช้เชื้อเพลิงสะอาด ควบคู่กับเทคโนโลยี CCUS ในโรงไฟฟ้าต่าง ๆ แบบ 100% และขยายธุรกิจไฮโดรเจนตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง

CR.(https://www.efinancethai.com/sustainability/sustainability-main.aspx?release=y&name=st_202411150919)#วันมอร์ลิงค์ #บริการรับกำจัดกากอุตสาหกรรม #กากอุตสาหกรรม #สิ่งแวดล้อม #ข่าววันนี้ #ความรู้ทั่วไป #CEORAPATSORN #ประเทศไทย #เทรนด์โลก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *